ธุรกรรมการเงินรูปแบบใหม่ที่น่าจับตามอง จากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ที่ส่งผลกระทบต่อตั้งแต่การใช้ชีวิตของคน ร้านค้าธุรกิจต่างๆ ไปจนถึงอุตสาหกรรมหลายๆแห่งทั่วโลก จนเกิดเป็น New Normal ที่เป็นการปรับตัวของคนในสถานการณ์การระบาดของไวรัสดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือให้สะอาดครบ 20 วินาที การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่นเดียวกันกับการทำธุรกรรมทางการเงิน ที่ได้มีการนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ดังกล่าวมากขึ้น จนเกิดเป็นกระแส Contactless Payment หรือการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ที่เพียงแค่นำบัตรหรืออุปกรณ์การชำระเงินต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ สายรัดข้อมือ แตะที่เครื่องรูดบัตร EDC ก็สามารถอนุมัติการจ่ายเงินได้เลย ไม่ต้องรูดหรือเสียบบัตร หรือกดรหัส PIN 6 หลักให้เสียเวลา

ในปัจจุบันการชำระเงินแบบไร้สัมผัสกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยกล่าวว่าถึงแม้สถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายลงแล้วในไทยก็ตาม การชำระเงินรูปแบบดังกล่าวก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถขยายกลุ่มผู้บริโภค จากช่วงอายุ 25-34 ปี กลุ่มอายุ 35-44 ปีก็เข้ามาใช้งานด้วย อีกทั้งยังมีผลสำรวจของวีซ่า (Visa) ที่ศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมของการชำระเงินของผู้บริโภค กล่าวว่ากว่า 75% ของคนไทยที่ยังไม่เคยใช้การชำระเงินแบบไร้สัมผัสในปัจจุบัน มีความสนใจที่จะมาใช้ระบบนี้ในอนาคต โดยเหตุผลที่ทำให้การชำระเงินรูปแบบดังกล่าวได้รับความสนใจมากขึ้น คือ ไม่ต้องถือเงินสด (68 เปอร์เซ็นต์) ใช้นวัตกรรมใหม่ในการชำระเงิน (58 เปอร์เซ็นต์) และเป็นวิธีที่เร็วกว่าวิธีอื่น (55 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังสอบถามถึงจุดที่คนเลือกชำระเงินด้วยวิธีดังกล่าวมากที่สุด คือ ระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ (17 เปอร์เซ็นต์) ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต (12 เปอร์เซ็นต์) และร้านค้าปลีก (11 เปอร์เซ็นต์)

จากผลสำรวจก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบไร้สัมผัสกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมมาตรการในการป้องกันการกระจายของไวรัสแล้ว ยังช่วยให้การชำระเงินของลูกค้าของเรานั้นรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้นด้วย