รูปแบบหนึ่งของการทำธุรกิจที่ซับซ้อนกว่าที่คุณคิด
สำหรับ ผู้ที่จะเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟรนไชส์ หรือส่งสัยเกี่ยวกับแฟรนไชส์ การเตรียมตัวถือเป็นสิ่งสำคัญหากมองเฉพาะผลลัพธ์ และ รายได้อาจจะดูล่อตาล่อใจไม่ว่าจะเป็นผู้ขายและผู้ซื้อแฟรนไชส์ สำหรับบทความนี้เราจะมาทำความเช้าใจกับความหมายของแฟรนไชส์ ส่วนประกอบของแฟรนไชส์ รวมไปถึงข้อดีและข้อเสียของผู้ซื้อหรือขายสิทธิแฟรนไชส์ เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังจะเข้ามาในวงการแฟรนไชส์มีความเข้าใจ และสามารถตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
แฟรนไชส์คืออะไร ?
แฟรนไชส์ (Franchise) เป็นรูปแบบการกระจายธุรกิจ หรือขยายกิจการที่จะต้องมีมารตฐานเดียวกัน โดยการขายสิทธิและวิธีการดำเนินธุรกิจ หรือ การผลิตสินค้าไปจนถึงการบริการให้มีมาตรฐานเดียวกัน ตัวอย่างเช่น
ร้าน 7-eleven ที่สามารถพบเจอได้ทุกที่ในประเทศไทยที่มีลักษณะและคุณภาพของร้านที่เหมือนกัน
ส่วนประกอบของรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์มี 3 อย่างดังนี้
1. ผู้ขาย (แฟรนไชส์ซอร์) และ ผู้ซื้อ (แฟรนไชส์ซี)
- ผู้ขาย หรือ แฟรนไชส์ซอร์ เป็นเจ้าของสิทธิในเครื่องหมายการค้า เสมือนกับบริษัทแม่ที่จะขาย สิทธิการค้า วิธีการดำเนินงาน ไปจนถึงช่วยสนับสนุนเครือข่ายที่ซื้อแฟรนไชส์
- ผู้ซื้อ หรือ แฟรนไชส์ซี เป็นผู้ที่มาซื้อรูปแบบของกิจการ เครื่องหมายการค้า และสิทธิการดำเนินกิจการของแฟรนไชส์ซอร์ เพื่อไปทำธุรกิจที่เหมือนกับต้นทางเป๊ะๆ
2. เครื่องหมายการค้า และ การดำเนินกิจการ
- เป็นสิ่งที่ แฟรนไชส์ซอร์ จะต้องถ่ายทอดให้กับ แฟรนไชส์ซี โดยจะมีเครื่องหมายการค้า ไปจนถึงเทคนิคการผลิตสินค้าเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา
3. การจ่ายค่าแฟรนไชส์
3.1 Franchise Fee หรือ เป็นค่าแรกเข้าในการซื้อแฟรนไชส์ ที่แฟรนไชส์ซีจะต้องจ่ายเผื่อซื้อสิทธิในเครื่องหมายการค้า และวิธีการดำเนินกิจการจากผู้ขายหรือแฟรนไชส์ซอร์
3.2 Royalty Fee เป็นค่าตอบแทนต่อเนื่อง โดยคำนวนจากสัดส่วนที่ แฟรนไชส์ซีขายได้และเรียกเก็บตามที่สัญญากำหนด
3.3 Advertising Fee เป็นค่าตอบแทนที่ จะนำไปใช้ในการโฆษณาและโปรโมทกิจการเพื่อกระตุ้นยอดขาย ในส่วนนี้จะมีเฉพาะบางแฟรนไชส์ที่เรียกเก็บ
ข้อดีของธุรกิจแฟรนไชส์ ในการทำธุรกิจแฟรนไชส์สำหรับ ผู้ขายสิทธิ หรือ แฟรนไชซอร์
- ธุรกิจสามารถขยายสาขา โดยการใช้ทุนที่ต่ำลง
- ลดความเสี่ยงในการลงทุน
- เพิ่มอำนาจการต่อลอง ในการซื้อปัจจัยในการผลิตสินค้า และ บริการ
- ได้รับส่วนแบ่งค่าตอบแทนจาก ผู้ที่ซื้อสิทธิ หรือ แฟรนไชส์ซี
- สามารถเพิ่มแหล่งกระจายสินค้า ไปสู่หน้าร้านในต้นทุนที่ต่ำลงและสม่ำเสมอ
ข้อดีในการทำธุรกิจแฟรนไชส์สำหรับ ผู้ซื้อสิทธิการค้า หรือ แฟรนไชส์ซี
- มีพี่เลี้ยงในการดำเนินกิจการ ด้วยการช่วยเหลือจาก แฟรนไชส์ซอร์
- มีฐานลูกค้า และ มีประสบการณ์ ไปจนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่สร้างไว้อยู่แล้ว
- มีแหล่งวัตถุดิบที่แฟรนไชซอร์ จัดหาให้
- แฟรนไชซอร์จะช่วยในการทำตลาด ทำให้ลดต้นทุนในการโปรโมท บางแฟรนไชส์อาจคิดเพิ่มมาในรูปแบบ Advertising Fee อยู่แล้ว ตามแต่ขอตกลงของแฟรนไชส์นั้นๆ
- เพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ เพราะ มีผู้ให้ความรู้ลดการลองผิดลองถูก และ อาจมีคอมมูนิตี้ที่คอยแลกเปลี่ยนความรู้ให้คำปรึกษาอยู่เสมอ
- สำหรับบางกิจการการซื้อแฟรนไชส์ อาจมีการลงทุนและความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการเปิดกิจการเองเสียอีก
ข้อเสียของธุรกิจแฟรนไชส์ สำหรับ ผู้ขายสิทธิ หรือ แฟรนไชซอร์
- หากไม่มีความพร้อมและความเข้าใจเกี่ยวกับ ระบบแฟรนไชส์ อาจส่งผลให้ธุรกิจล้มเหลวได้
- อาจมีปัญหากับผู้ที่ซื้อสิทธิหรือแฟรนไชซี ที่ไม่ทำตามกฎหรือข้อตกลง
- ความยากขึ้นในการคุม มาตรฐาน และ ภาพลักษณ์ ของกิจการให้มีความใกล้เคียงกัน
- ความเสี่ยงในการเปิดเผยข้อมูลของธุรกิจ ให้กับกลุ่มแฟรนไชซี
- มีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นที่สูง รวมไปถึงความซับซ้อนในหลายๆด้าน
ข้อเสียในการทำธุรกิจแฟรนไชส์สำหรับ ผู้ซื้อสิทธิ หรือ แฟรนไชซี
- มีขอบเขตในการดำเนินธุรกิจ ให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ทำไว้กับ แฟรนไชซอร์
- ใช้เงินลงทุนสูงในการเริ่มต้นแฟรนไชส์
- ภาพลักษณ์ของแฟรนไชส์อาจส่งผลที่ไม่ดีในบางเหตุการ
- ถึงความเสี่ยงจะต่ำแต่ก็ไม่มีหลักประกันที่จะประสบความสำเร็จ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องคำนึงด้วย
หากจะเริ่มกิจการแฟรนไชส์ ควรเลือกซื้อแฟรนไชส์อย่างไรดี
สำหรับผู้ที่จะเลือกกิจการแฟรนไชส์ โดยปกติจะมีการศึกษาข้อมูลการลงทุน ความน่าสนใจของธุรกิจ คำนวนกับ กำลังทรัพย์หรือต้นทุนของเราเอง สำหรับการเลือกแฟรนไชส์สามารถทำสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจได้ อย่างเช่น
- ตรวจสอบข้อมูลของแฟรนไชส์ ประสบการณ์ ภาพลักษณ์ วิสัยทัศ ไปจนถึงอายุบริษัทและวิธีการดำเนินงาน
- ตรวจสอบจำนวนสาขา และ กลุ่มลูกค้าในพื้นที่
- ปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์การทำแฟรนไชส์ที่สนใจ หรือ กลุ่มที่กำลังทำแฟรนไชส์แบรนนั้นอยู่
- ความเข้ากันระหว่างตนเองและผู้ขายสิทธิหรือ แฟรนไชซอร์ เพื่อการทำงานที่ราบรื่น
- ข้อตกลงในการทำสัญญาที่ชัดเจน ไม่เอาเปรียบจนเกินไป และ รับได้ทั้งสองฝ่าย
- มีการพัฒนา ดูแลธุรกิจอยู่เสมอเพื่อคงยอกขายและรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
การทำแฟรนไชส์ไม่ว่าจะเป็นผู้ขายสิทธิ หรือ ผู้ที่ซื้อสิทธิแฟรนไชส์ ก็ต่างมีความเสี่ยงในการลงทุน รวมทั้ง ข้อดี และ ข้อเสีย เป็นธรรมดาของธุรกิจ แต่สิ่งที่แฟรนไชส์จะแตกต่างก็คือความซับซ้อนที่มากขึ้นเพราะจะต้องเจอกับผู้คนที่หลากหลาย กฎระเบียบที่จำเป็นจะต้องเข้มงวดเพื่อคงมาตรฐาน และ การดำเนินงานให้ธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราสามารถเห็นตัวอย่างของแฟรนไชส์ได้มากมายในชีวิตประจำวัน ซึ่งสุดท้ายแล้วหากผู้ที่กำลังจะเริ่มลงทุนเกี่ยวกับแฟรนไชส์ ควรศึกษาและเตรียมแบบแผนให้พร้อมสำหรับการดำเนินธุรกิจเพื่อที่จะประสบความสำเร็จได้ในอนาคต
หาโปรแกรมธุรกิจและเครื่องPOSได้ที่ Facebook
ปรึกษา หรือ สอบถามเกี่ยวกับเครื่อง POS สุด Private ด้วย Line